อย่านั่งอยู่เฉยๆเมื่อคุณมีปีกที่จะโบยบิน!

อย่านั่งอยู่เฉยๆเมื่อคุณมีปีกที่จะโบยบิน!

กาลครั้งหนึ่งมีกษัตริย์ผู้ใจดี เขามีความชื่นชอบนกเป็นอย่างมาก และมีเขตรักษาพันธุ์นกขนาดใหญ่ในอาณาจักรของเขา เขาจะไม่ทำร้ายสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะนก


เมื่อประชาชนซาบซึ้งในความเอื้ออาทรและความเมตตาต่อนก กษัตริย์จึงได้รับของขวัญจากนักธุรกิจ เป็น เหยี่ยว ซึ่งเหยี่ยวสองตัวนี้เคยชินกับสภาพอากาศที่แตกต่างกัน พระราชาทรงขอบคุณนักธุรกิจและสั่งให้หัวหน้าครูฝึกนกจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดให้กับเหยี่ยวที่สวยงามเหล่านั้นและทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจในประเทศของตน หัวหน้าผู้ฝึกสอนดูแลนก ค่อยๆ ปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศของประเทศ

อยู่มาวันหนึ่ง พระราชาต้องการเห็นเหยี่ยวบิน ในขณะที่เขาได้ยินว่าเหยี่ยวหนึ่งในนั้นสามารถบินได้สูงมากและมีความเร็วสูง ครูฝึกนกปล่อยนกเหยี่ยวออกจากกรง มันบินสูงมาก เร็วมาก และลงมายังกรงภายในไม่กี่นาที


กษัตริย์รู้สึกประหลาดใจมากและให้รางวัลแก่ครูฝึกนกด้วยเหรียญทองจำนวนหนึ่ง เขาถามถึงนกเหยี่ยวอีกตัวหนึ่ง ครูฝึกนกกล่าวด้วยความเสียใจที่นกเหยี่ยวอีกตัวไม่ขยับตั้งแต่วันแรก เอาแต่นั่งบนกิ่งไม้ ผู้ฝึกสอนยังเสริมอีกว่าเขาพยายามทำทุกอย่างที่ทำได้ แต่ยังล้มเหลวในการทำให้นกขยับได้

กษัตริย์ปลอบเขาและบอกเขาว่าจะพาคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเขามาฝึกเหยี่ยวอีกตัว

ในไม่ช้ากษัตริย์ก็ประกาศว่าต้องการใครสักคนที่จะทำให้เหยี่ยวเคลื่อนไหวและบินได้

เมื่อได้ยินคำประกาศนี้ ชายชราคนหนึ่งก็มาถึงวังของกษัตริย์และรับรองกับเขาว่าเขาจะให้เหยี่ยวตัวนี้บินได้

กษัตริย์ขอให้หัวหน้าครูฝึกพาชายชราไปฝึกเหยี่ยว และเขาบอกว่าเขาจะไปดูพวกเขาในวันรุ่งขึ้นเพื่อดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่


วันรุ่งขึ้น พระราชาแปลกใจมากที่เห็นนกเหยี่ยวอีกตัวบินเหมือนตัวแรกที่บินสูงอย่างรวดเร็ว กษัตริย์มีความสุขมากและมอบเหรียญทองจำนวนหนึ่งแก่ชายชรา

พระราชาถามชายชราว่าทำอย่างไรให้นกบินได้ภายในวันเดียว ชายชราตอบเพียงว่า “ฉันแค่ตัดกิ่งไม้ที่นกเหยี่ยวนั้นใช้นั่ง”

นิทานก่อนนอน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า:

พวกเราหลายคนก็เป็นแบบนี้ เรามีปีกที่จะบินได้ เรารู้วิธีบินและบินไปที่ไหนก็ได้ แต่เรามัวแต่นั่งอยู่เฉยๆ

ความคิดเห็น