กาลครั้งหนึ่งมีชายชราคนหนึ่งมีบุตรชายสี่คน ซึ่งบุตรทั้งสี่คนนั้นมีนิสัยที่ขี้เกียจมาก
อยู่มาวันหนึ่ง ชายชราล้มป่วยและกำลังนั่งนับวันสุดท้ายอยู่บนเตียง เขากังวลอย่างมากเกี่ยวกับอนาคตของลูกชายของเขา เนื่องจากชายหนุ่มลังเลที่จะทำงานเป็นอย่างมาก ซึ่งลูกชายของเขา เอาแต่เชื่อว่าโชคจะเข้าข้างพวกเขา
สุขภาพของชายชราทรุดโทรมลงทุกวัน เขาจึงตัดสินใจพูดคุยกับลูกชายเกี่ยวกับอนาคตของพวกเขา แต่อย่างไรก็ตาม ลูกชายของเขาไม่ฟังเขา
ในที่สุด ชายชราก็ตัดสินใจที่จะวางแผนเพื่อให้ลูกชายได้ตระหนักถึงความสำคัญของงาน เขาเรียกบุตรชายทั้งหมดของเขาและปล่อยให้พวกเขานั่งใกล้เขาบนเตียงของเขา เขาบอกว่าเขามีกล่องสมบัติที่มีเหรียญทองและอัญมณีราคาแพงสำหรับพวกเขา และต้องการแบ่งปันสมบัติให้เท่าๆ กันกับพวกเขาทั้งสี่
ชายหนุ่มดีใจมากจึงถามว่าพ่อของเขาวางสมบัติไว้ที่ไหน ชายชราตอบว่า “ข้าจำไม่ได้แน่ชัดว่าข้าซ่อนสมบัติไว้ที่ไหน อย่างไรก็ตาม กล่องสมบัติถูกฝังอยู่ในดินแดนของเรา ข้าไม่แน่ใจจริงๆ ว่าข้าซ่อนกล่องสมบัติไว้ที่ไหน”
แม้ว่าลูกชายขี้เกียจจะมีความสุข แต่พวกเขาก็เศร้าที่ชายชราลืมที่ซึ่งสมบัติถูกซ่อนไว้ หลังจากนั้นไม่กี่วัน ชายชราก็เสียชีวิต ลูกชายตัดสินใจขุดดินเพื่อหากล่องสมบัติ
พวกเขาทำงานหนักมากและขุดดิน พวกเขาไม่พบกล่องสมบัติใด ๆ ในแผ่นดิน ในที่สุด พวกเขาตัดสินใจที่จะขุดจุดหนึ่งในที่ดินของพวกเขาที่แตกต่างจากพื้นที่อื่นเล็กน้อย ลูกชายเชื่อว่าสมบัติถูกฝังอยู่ในจุดนั้น พวกเขาขุดจุดนั้นอย่างลึกล้ำ แต่ได้อะไรมานอกจากน้ำ
ผู้สัญจรไปมาสังเกตเห็นผืนดินและน้ำที่ไหลจากจุดนั้นได้สนทนากับบุตรชายเรื่องเกษตรกรรม ตามคำแนะนำของเขา ลูกชายทั้งสี่คนหว่านเมล็ดพืช ปลูกผักใบเขียวและไม้ดอกในดินแดนของตน เนื่องจากดินแดนแห่งนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำที่อุดมสมบูรณ์ ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ที่ดินจึงกลายเป็นสวนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยผักและผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ลูกชายทั้งสี่คนขายผักได้ราคาดีและได้เงินเป็นจำนวนมาก
จากนั้นพวกเขาก็รู้ว่ามันเป็นงานหนักที่พ่อของพวกเขาเรียกว่า ‘กล่องสมบัติ’ ลูกชายทั้งสี่ค่อยๆ เอาชนะความเกียจคร้าน ทำงานหนัก หาเงินเพิ่ม และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข