มันเป็นคืนที่หนาวเย็นและมีลมแรง ฉันกับเพื่อนได้พบกันหลังจากที่ไม่ได้พบกันมานาน และได้พูดคุยกันเป็นชั่วโมง จนทำให้เราไม่ได้สังเกตเวลาที่ผ่านไป และไม่นานก็ใกล้จะสิบโมงเช้า เราจึงตัดสินใจนั่งรถสามล้อกลับบ้าน
ฝนเริ่มตก เราจึงรีบหารอสามล้อเพื่อที่จะเรียกกลับบ้าน
คนขับถามเราว่าเราอยากไปที่ไหน หลังจากที่เราบอกสถาณที่ไป เขาไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับค่าโดยสาร เขาพูด “ได้โปรดเข้ามา!” เราจึงพูดขอบคุณเขาและเข้าไป
เนื่องจากอากาศหนาวมาก ฉันจึงขอให้คนขับหยุดที่ร้านอาหารเล็กๆ หรือร้านน้ำชา เราอยากกินชาร้อนสักถ้วย คนขับหยุดใกล้ร้านอาหารเล็กๆ
เราสั่งชาและขอให้คนขับรถมาร่วมดื่มชากับเรา คนขับปฏิเสธ ฉันยืนยัน แต่เขาปฏิเสธอีกครั้งอย่างสุภาพ
เพื่อนของฉันถามเขาว่า “คุณไม่ชอบดื่มชาจากร้านนี้หรือ”
คนขับตอบว่า “เปล่าครับ ผมรู้สึกไม่อยากดื่มชาเลย”
ฉันถามอีกครั้ง “ทำไมล่ะ ดื่มสักถ้วยสิ”
คนขับยิ้มตอบ “ขอบคุณครับ แต่ผมขอโทษ ผมไม่อยากดื่มจริงๆ”
เพื่อนของฉันถามว่า “คุณต่อต้านการกินหรือดื่มข้างนอกหรือ”
คนขับบอก “ไม่!”
ฉันแปลกใจมากกับพฤติกรรมของเขาและขอให้เพื่อนของฉันไม่บังคับเขา
อีก 15 นาที เราก็ถึงบ้าน เราจ่ายค่าโดยสารและคนขับขอบคุณเรา
แต่ฉันยังคงสงสัย เพราะฉันอยากจะถามเขาจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมดื่มชากับเราที่ร้านอาหาร
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ท่านครับ ลูกชายของฉันเสียชีวิตในเที่ยงนี้ด้วยอุบัติเหตุ ฉันไม่มีเงินเพียงพอสำหรับงานศพของเขา ฉันจึงสาบานว่าจะไม่ดื่มน้ำเลย จนกว่าฉันจะได้เงินเพียงพอสำหรับ งานศพของลูกชาย นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไม่ดื่มชาเมื่อคุณเสนอ โปรดอย่าเข้าใจผิด”
เราทั้งคู่ต่างใจสลายและเสนอเงินให้เขามากขึ้นสำหรับงานศพของลูกชายเขา
เขาปฏิเสธอย่างสุภาพ “ขอบคุณสำหรับความเอื้ออาทรของคุณครับ ภายในหนึ่งหรือสองชั่วโมงถ้าฉันได้ลูกค้าอีกหนึ่งหรือสองคนฉันจะได้รับเงินที่ฉันต้องการ” และเขาก็ออกไป
เรารู้สึกทึ่งในความแข็งแกร่งของบุคลิกลักษณะและความซื่อสัตย์ของเขา